พูดถึงประเทศในฝันที่ใครหลายคนอยากไปเยือน รับรองว่าต้องมีประเทศ “อังกฤษ” ติดโผอยู่แน่นอน… ซึ่งคนใน 85 ประเทศทั่วโลก ต่างโหวตให้อังกฤษเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ดีที่สุดในปี 2565
เพราะอังกฤษขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองผู้ดี” ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและความหรูหรา แต่ยังมีครบทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปะวัฒนธรรม งานสถาปัตยกรรมโบราณที่มีประวัติศาสตร์ล้ำค่า งานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ อาหารการกินและแหล่งช้อปปิ้งที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย
เรียกว่าเป็นเมืองในฝันที่ตอบโจทย์ครบทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การทำงาน และการเรียนต่อเลยก็ว่าได้ และถ้าคุณกำลังคิดอยากไปจะอังกฤษ วันนี้เรามีวิธีการเตรียมตัวขอวีซ่าอังกฤษที่จัดมาให้แบบเคลียร์ ๆ อ่านจบก็พร้อมไปขอวีซ่ากันได้เลย
1. ระบุให้ชัดว่า… “จะไปทำอะไรที่อังกฤษ”
คนไทยที่ต้องการเดินทางไปอังกฤษจะต้องขอวีซ่าให้ตรงตามวัตถุประสงค์จริง ๆ เพราะถ้าใช้วีซ่าผิดประเภท รับรองว่าชีวิตเปลี่ยนแน่นอน ซึ่งมีทั้งวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว การเรียน การติดต่อธุรกิจ การทำงาน ไปเยี่ยมญาติ หรือแต่งงาน โดยคุณสามารถเข้าไปตรวจสอบประเภทวีซ่าที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเองที่ https://www.gov.uk/check-uk-visa ภายในเว็บจะมีให้ระบุว่าสัญชาติอะไร ไปทำอะไรที่อังกฤษ มีญาติหรือครอบครัวอยู่ที่อังกฤษหรือไม่ แล้วระบบก็จะเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะกับเราขึ้นมาให้
วีซ่าท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจหรือประชุมสั้น ๆ (UK Visitor Visa)
อนุญาตให้ชาวต่างชาติผู้อยู่นอกเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area) หรือสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) เดินทางเข้าไปในอังกฤษได้นาน 6 เดือน ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อเที่ยวพักผ่อนทั่วไปแล้ว ยังรวมถึงการไปเยี่ยมญาติ พบปะเพื่อนฝูง ติดต่อธุรกิจ ประชุม การร่วมงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้ อาจจะลงคอร์สเรียนสั้น ๆ ไม่เกิน 30 วัน แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก
ข้อห้าม ห้ามทำงานทุกประเภททั้งได้รับค่าแรงหรือไม่ได้รับค่าแรง ห้ามเข้ามาอยู่อาศัยอย่างถาวร และห้ามใช้เพื่อเข้ามาแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส
วีซ่าเรียนต่อ (UK Student Visa)
แตกต่างไปตามอายุของนักเรียนและหลักสูตรที่จะไปเรียนต่อ ได้แก่
- Short-term study visa วีซ่าสำหรับเรียนหลักสูตรระยะสั้น 6-11 เดือน
- Student visa วีซ่าสำหรับการเรียนหลักสูตรระยะยาว ซึ่งต้องมีใบรับรองและใบตอบรับจากวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ได้รับอนุญาต โดยนักเรียนที่ถือวีซ่าประเภทนี้สามารถทำงานเสริมบางประเภทระหว่างเรียนได้
- Child Student visa วีซ่าสำหรับนักเรียนที่มีอายุ 4-17 ปี ที่เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน โดยนักเรียนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไปสามารถทำงานเสริมบางประเภทระหว่างเรียนได้
สำหรับนักเรียนที่อยากไปลงคอร์สเรียนแบบสั้น ๆ และท่องเที่ยวไปด้วย คุณสามารถใช้วีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวได้ (UK Visitor Visa)
วีซ่าทำงาน (UK Work Visa)
มีทั้งทำงานระยะสั้น ระยะยาว โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดวีซ่าเพื่อการทำงานได้ที่ https://www.gov.uk/browse/visas-immigration/work-visas ซึ่งจะต้องระบุประเภทงานที่เข้าไปทำ สาขาอาชีพ และทักษะความชำนาญที่ใช้ เช่น
- วีซ่าทำงานสำหรับแรงงานมีฝีมือหรือทักษะขั้นสูง รวมถึงคนที่จบจากสถานศึกษาในอังกฤษตามระดับการศึกษาที่กำหนดในระยะเวลา 12 เดือน
- วีซ่าทำงานสำหรับแรงงานมีฝีมือ ซึ่งต้องมีนายจ้างเสนอและไม่สามารถหาคนทำงานในอังกฤษได้ หรือเป็นตำแหน่งที่ขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งพนักงานในบริษัทระหว่างประเทศที่โดนโอนย้าย นักกีฬาหรือผู้ฝึกสอน และนักบวชหรือนักเผยแพร่ศาสนาที่ต้องไปทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ว่าง
- วีซ่าทำงานชั่วคราว ไม่เกิน 12 เดือน ได้แก่ นักแสดง ศิลปิน นักกีฬา อาสาสมัครในองค์กรการกุศล งานเกี่ยวกับศาสนา งานในโครงการแลกเปลี่ยนที่หน่วยงานในรัฐบาลอังกฤษอนุมัติ
- วีซ่าสำหรับนักลงทุน มีทั้งลงทุนทั่วไป (Investor Visa) ลงทุนเพื่อก่อตั้งหรือเริ่มต้นธุรกิจ (Start-Up Visa) และผู้คิดค้นนวัตกรรมซึ่งเป็นทั้งคนลงทุนและปฏิบัติงานจริง (Innovator Founder visa)
วีซ่าแต่งงาน (UK Marriage Visitor Visa)
เพื่อเข้าไปแต่งงาน จดทะเบียนสมรส หรือเข้าไปเป็นคู่อยู่กินกับชาวอังกฤษในฐานะสามีภรรยา แต่ไม่ใช่เพื่อเข้าไปอยู่ถาวร โดยสามารถใช้อยู่ในอังกฤษได้นาน 6 เดือน แต่หากต้องการมาตั้งรกรากอยู่ที่อังกฤษแบบถาวรจะต้องเดินทางออกจากอังกฤษ และกลับมาอีกครั้งเมื่อได้รับอนุมัติใบอนุญาตพำนักถาวรเท่านั้น
วีซ่าเดินทางผ่านอังกฤษ (UK Transit Visa)
เพื่อเดินทางผ่านอังกฤษและต้องเดินทางออกจากอังกฤษภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านบ่อย ๆ ก็สามารถขอวีซ่าเดินทางผ่านแบบระยะยาวได้ ยกเว้นการเดินทางไปไอร์แลนด์ให้ทำ วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษแทน (UK Visitor Visa)
วีซ่าครอบครัว (UK Family Visa)
เฉพาะคนที่เป็นคู่สมรส หรือมีการอยู่กินแบบสามีภรรยา หรือถือวีซ่าพำนักถาวรเท่านั้นที่สามารถขอวีซ่าครอบครัวเพื่อย้ายถิ่นฐานมาอังกฤษ และเมื่อครบจำนวนปีตามที่กำหนด ก็สามารถยื่นขอใบอนุญาตพำนักถาวรได้
2. “เตรียมเอกสารให้ครบ” ตามประเภทของวีซ่า
สำหรับเอกสารการยื่นขอวีซ่าจะแตกต่างไปตามประเภทวีซ่าที่ยื่นขอ โดยมีรายละเอียดเอกสารคร่าว ๆ ดังนี้
1. ใบยืนยันการจ่ายเงินค่าธรรมเนียม และ
2. เอกสารใบคำร้องขอวีซ่าออนไลน์พร้อมเซ็นต์ชื่อ
3. ใบนัดหมายกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)
4. พาสปอร์ตอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (ฉบับจริง และสำเนา) และนำพาสปอร์ตเล่มเก่ามาด้วย (ถ้ามี)
3. สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน / ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) / ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า (ภาษาอังกฤษ)
5. เอกสารรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) ระบุตำแหน่ง เงินเดือน อายุงาน และวันลาหยุดงาน หรือในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจให้ใช้หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ หรือหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ หรือในกรณีที่เป็นนักเรียนให้ใช้จดหมายรับรองจากสถาบันการศึกษา (ภาษาอังกฤษ)
7. หลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือน ถึงปัจจุบัน ได้แก่ สมุดบัญชีเงินฝาก หรือหนังสือรับรองจากธนาคาร ที่ระบุชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษตรงกับหนังสือเดินทาง (ถ่ายสำเนาทุกหน้าย้อนหลัง 6 เดือน)
8. ใบจองตั๋วเครื่องบินระบุวันเดินทางไป-กลับ / หลักฐานการจองที่พัก / แผนการเดินทาง
9. กรณีไปอาศัยอยู่กับญาติ ต้องมีจดหมายเชิญโดยระบุชื่อคนเชิญ ระยะเวลา และหลักฐานที่อยู่
11. หากอายุต่ำกว่า 18 ปี และต้องเดินทางคนเดียว หรือเดินทางกับคนอื่นที่ไม่ใช่บิดา-มารดา ต้องทำหนังสือยินยอมโดยไปยื่นเรื่องได้ที่ที่ว่าการอำเภอหรือเขต โดยมีนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตประทับตรายืนยัน
12. สำหรับวีซ่าทำงาน ต้องมีหนังสือหรือจดหมายรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
3. “ยื่นขอวีซ่าออนไลน์” และชำระค่าธรรมเนียม
1. สามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าและชำระค่าธรรมเนียมผ่านเว็บไซต์ https://visas-immigration.service.gov.uk/alt-language-selection-skip-visa โดยคุณสามารถเลือกอ่านภาษาไทยได้ แต่ต้องกรอกรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น และรายละเอียดจะแตกต่างไปตามวีซ่าแต่ะละประเภท โดยควรวางแผนขอวีซ่าล่วงหน้าตามระยะเวลาที่กำหนดดังนี้
- วีซ่าท่องเที่ยว ขอก่อน 3 เดือนล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง
- วีซ่าทำงาน ขอก่อน 3 เดือนล่วงหน้าก่อนวันเริ่มทำงาน
- วีซ่านักเรียน ขอก่อน 6 เดือนล่วงหน้าก่อนวันเริ่มเรียน
โดยเข้าไปเช็กระยะเวลาของวีซ่าแต่ละประเภทได้ที่นี่ https://www.gov.uk/guidance/visa-processing-times-applications-outside-the-uk
2. นัดหมายวัน เวลา เพื่อไปยื่นเอกสารที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ได้แก่
- อาคารเทรนดี้ ซอยสุขุมวิท 13 กรุงเทพมหานคร (เปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ 08.30 – 15.00 น.)
- อาคารศรีพาณิชย์ เชียงใหม่ (เปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ 08.30 – 14.30 น.)
3. พิมพ์ใบยืนยันการจ่ายเงิน และเอกสารคำร้องขอวีซ่าออนไลน์พร้อมเซ็นต์ชื่อ รวมทั้งเตรียมเอกสารทั้งหมดทั้งฉบับจริงและฉบับสำเนา ไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ตามวันและเวลาที่นัดไว้
4. พิมพ์ลายนิ้วมือและถ่ายภาพ และยืนยันตัวตนผ่านแอป UK Immigration
5. แจ้งการจัดส่งพาสปอร์ตคืนว่าจะมารับเองหรือให้จัดส่งทางไปรษณีย์
หลังจากนั้นก็ให้รอผลการอนุมัติซึ่งจะแจ้งผ่านอีเมลที่ใช้สมัครลงทะเบียนยื่นขอวีซ่าออนไลน์ โดยระยะเวลารอผลแตกต่างไปตามประเภทวีซ่า โดยวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่านักเรียน วีซ่าเดินทางผ่าน และวีซ่าทำงาน รอประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนวีซ่าครอบครัวต้องรอประมาณ 12 สัปดาห์
เมื่อทราบขั้นตอนและเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าประเภทต่าง ๆ กันแล้ว เตรียมเอกสารให้พร้อมและติดต่อหาร้านแปลที่รับรองการแปลถูกต้องได้เลย ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล บริษัท Modus ของเรารอให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ตรงนี้แล้ว ติดต่อแปลเอกสารโดยนักแปลมืออาชีพ หรือรับรองนิติกรณ์กับกรงการกงสุล ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้หลากหลายช่องทางดังนี้
เบอร์โทรศัพท์ 094 3758148
LINE: 094 3758148 / ID: modusservices
WhatsApp/Telegram: 094 3758148
Email: pm@moduslanguageservices.com หรือ admin@moduslanguageservices.com